SDG ผลงานชิ้นที่ 5
การบริการให้คำปรึกษาของศูนย์ดูแลนักศึกษาด้วยหัวใจ (SCC) คณะพยาบาลศาสตร์
1. โครงการ/กิจกรรมสอดคล้องกับ SDGs
SDG 3 การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Good health and well-being)
2. สรุปผลการดำเนินงาน
ปัญหาต่างๆ ของนักศึกษาในระดับอุดมศึกษา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจากการเรียน ครอบครัว หรือความสัมพันธ์กับเพื่อน การตั้งครรภ์ในวัยเรียน อาจส่งผลต่อความเครียด ภาวะซึมเศร้า และการฆ่าตัวตายของนักศึกษาตามมาได้ ซึ่งถือเป็นปัญหาสุขภาพจิตที่สำคัญและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จากการสำรวจปัญหาสุขภาพจิตเบื้องต้นของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ช่วงปีการศึกษา 2564-2566 โดยใช้แบบประเมินสุขภาพจิตเบื้องต้นผ่านทาง Application Mental Health Check in มีผู้ตอบแบบประเมิน จำนวน 11,820 คน พบว่า มีความเครียด ร้อยละ 24.18 เสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า ร้อยละ 42.3 และเสี่ยงทำร้ายตนเองและฆ่าตัวตาย ร้อยละ 5.49 (กองพัฒนานักศึกษา, 2566) การดูแลช่วยเหลือเพื่อให้นักศึกษามีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Good health and well-being) ในระหว่างการเรียนเป็นสิ่งสำคัญ และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวข้างต้น หรือเมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้วสามารถให้การดูแลช่วยเหลือนักศึกษาให้สามารถปรับตัวและจัดการปัญหานั้นๆ ได้อย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย จะสะท้อนถึงคุณภาพในการดูแลและให้คำปรึกษาแก่นักศึกษาด้วย ทั้งนี้จากนโยบายของมหาวิทยาลัยให้มีการจัดตั้งศูนย์ดูแลนักศึกษาด้วยหัวใจ (SRU Student Care Center :SCC) ขึ้นในทุกคณะ ศูนย์ SCC คณะพยาบาลศาสตร์ ได้มีการจัดตั้งและดำเนินงานภายใต้แนวคิดการดูแลด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ (Humanized care) ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ตัวหนึ่งของคณะพยาบาลศาสตร์ (SRUN+H) โดยมีคณะทำงานซึ่งเป็นอาจารย์สาขาการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านสุขภาพจิตและจิตเวช และด้านการให้คำปรึกษา เป็นผู้รับผิดชอบหลัก และมีอาจารย์สาขาการพยาบาลมารดาและทารก ในการให้คำปรึกษากรณีเป็นปัญหาสุขภาพวัยเจริญพันธุ์ เช่น ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยเรียน ปัญหาทางเพศ เป็นต้น นอกจากนี้ ทางคณะฯ ยังมีเครือข่ายทางด้านสุขภาพ ได้แก่ โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นภาคใต้ และศูนย์สุขภาพจิตที่ 11 ที่สามารถขอคำปรึกษาและขอการสนับสนุนด้านต่างๆ ที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจิตของนักศึกษาอีกด้วย ทั้งนี้ คณะฯ ได้วางระบบและกลไกในการดำเนินงานของศูนย์ SCC โดยมีขั้นตอนตามหลัก PDCA ดังนี้
Plan (วางแผน)
- คณะกรรมการฝ่ายแนะแนวและให้คำปรึกษา ซึ่งประกอบด้วยอาจารย์จากสาขาการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช และอาจารย์สาขาการพยาบาลมารดาและทารก ทำการวิเคราะห์ SWOT ผลการดำเนินงานบริการให้คำปรึกษาของปีที่ผ่านมา
- นำผลการวิเคราะห์ SWOT มาวางแผนระบบบริการให้คำปรึกษา โดยมุ่งเน้นบริการด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ ที่นักศึกษาสามารถเข้าถึงได้ง่าย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
- วางแผนการอบรมเพื่อพัฒนาทักษะการให้คำปรึกษาแก่อาจารย์ที่ปรึกษา และแกนนำนักศึกษา
- วางแผนงบประมาณในการปรับปรุงศูนย์ SCC ของคณะพยาบาลศาสตร์ ให้มีบรรยากาศที่ผ่อนคลาย สวยงาม มีความเป็นส่วนตัวเหมาะสำหรับให้คำปรึกษา และงบประมาณค่าวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับใช้ในศูนย์ SCC
Do (ปฏิบัติ)
- ประชาสัมพันธ์การบริการให้คำปรึกษาผ่านทางอาจารย์ประจำชั้นปี และช่องทางต่างๆ ที่นักศึกษา
เข้าถึงได้ง่าย
- ปฏิบัติการให้บริการให้คำปรึกษา โดยมีขั้นตอนในการขอรับบริการให้คำปรึกษา ดังนี้
2.1 กรณีนักศึกษาขอรับบริการด้วยตนเอง
1) นักศึกษาสามารถติดต่อขอรับบริการให้คำปรึกษาได้โดยตรงที่ศูนย์ SCC คณะพยาบาล
ศาสตร์ ในวัน เวลา ราชการ
2) หากนักศึกษาต้องการระบุอาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา สามารถโทรศัพท์หรือไลน์หาอาจารย์ที่ประสงค์จะปรึกษาด้วยโดยตรง เพื่อนัดวัน เวลา ที่สะดวกในการขอรับบริการให้คำปรึกษา
2.2 กรณีส่งต่อเพื่อขอรับบริการ
อาจารย์ผู้สอน/อาจารย์ประจำชั้น เมื่อพบว่า นักศึกษาคนหนึ่งคนใดมีปัญหาด้านสุขภาพจิต/ปัญหาวัยเจริญพันธ์ ที่จำเป็นต้องได้รับการให้คำปรึกษา สามารถประสานไปที่อาจารย์สาขาการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช เพื่อนัดวัน เวลา ในการเข้ารับบริการให้คำปรึกษา
2.3 กรณีจำเป็นต้องส่งต่อพบแพทย์
ภายหลังการให้คำปรึกษา หากอาจารย์ผู้ให้คำปรึกษาประเมินพบว่า นักศึกษาจำเป็นต้องพบแพทย์/จิตแพทย์ ให้อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษาแนะนำนักศึกษาไปพบแพทย์/จิตแพทย์ (อาจประสานผู้ปกครองทราบเพื่อเป็นคนพาไปพบแพทย์) แจ้งอาจารย์ประจำชั้นทราบทางวาจา ติดตามผลการรักษา และทำบันทึกข้อความรายงานคณบดีทราบต่อไป
Check (ประเมินผล)
ประเมินความพึงพอใจต่อบริการให้คำปรึกษา ซึ่งพบว่า คะแนนความพึงพอใจต่อบริการให้
คำปรึกษา ในปีการศึกษา 2564, 2565, 2566 เท่ากับ 4.17, 4.35 และ 4.48 (คะแนนเต็ม 5) ซึ่งเพิ่มขึ้นตามลำดับ ทั้งนี้อาจเนื่องจากคณะพยาบาลศาสตร์มีระบบและกลไกในการบริการให้คำปรึกษาที่มีประสิทธิภาพ มีทั้งอาจารย์ที่ปรึกษาประจำชั้น ที่สามารถให้การดูแลนักศึกษาได้อย่างใกล้ชิด (สัดส่วนอาจารย์ที่ปรึกษาประจำชั้น : นักศึกษา ไม่เกิน 1: 14) และมีอาจารย์ฝ่ายแนะแนวและให้คำปรึกษาซึ่งเป็นอาจารย์ในสาขาการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช ซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาและการทำจิตบำบัด ที่จะเข้ามาช่วยให้คำปรึกษาแก่นักศึกษาในกรณีที่เป็นปัญหาสุขภาพจิต หรือปัญหาที่จำเป็นต้องอาศัยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เช่น ปัญหาสุขภาพทางเพศและปัญหาวัยเจริญพันธ์ ก็จะมีอาจารย์ในสาขาการพยาบาลมารดาและทารก มาเป็นผู้ให้คำปรึกษา
Act (ปรับปรุงและพัฒนา)
- ถอดบทเรียนความสำเร็จกระบวนการให้คำปรึกษา
- สนับสนุน ส่งเสริมการพัฒนาสมรรถนะอาจารย์ด้านการให้คำปรึกษา
- สร้างความตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาสุขภาพจิต/ปัญหาวัยเจริญพันธ์ โดยการทำสื่อประชาสัมพันธ์ และเชิญชวนนักศึกษาเข้ารับบริการให้คำปรึกษาโดยความสมัครใจ
สรุปบทเรียนและข้อเสนอแนะในการดำเนินโครงการ
- ปัญหาสุขภาพจิต และปัญหาวัยเจริญพันธ์ เป็นปัญหาสำคัญของนักศึกษาในระดับอุดมศึกษาที่นักศึกษา ผู้ปกครอง อาจารย์และบุคลากรทุกระดับควรให้ความสำคัญ
- การให้คำปรึกษา เป็นกระบวนการที่จำเป็นต้องใช้ความรู้และทักษะเฉพาะด้านการให้คำปรึกษา และจิตวิทยาการให้คำปรึกษา ดังนั้นจำเป็นต้องพัฒนาอาจารย์ให้มีสมรรถนะด้านการให้คำปรึกษา
- การสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับนักศึกษาหรือผู้ที่เข้ารับบริการให้คำปรึกษาเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นการรักษาความลับ การมีสถานที่ที่เป็นส่วนตัวในการให้คำปรึกษาเป็นสิ่งจำเป็น
4. ควรมีการทำความร่วมมือ (MOU)กับหน่วยงานอื่นๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนในการดูแลสุขภาพจิตของนักศึกษา และบุคลากร โดยร่วมกันทำแผนการให้บริการ และมีแนวปฏิบัติในการดูแลและการส่งต่อเพื่อเข้ารับการรักษา/ช่วยเหลืออย่างชัดเจน
3. ภาพประกอบโครงการ/กิจกรรม